NFT ทำอะไรได้บ้าง NFT คืออะไร คำถามคาใจของคนที่เพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล
แน่นอนว่า NFT ไม่ใช่แค่เรื่องของความชื่นชอบในเรื่องการลงทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่หันมาสะสมสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบในรูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัล
NFT มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เช่น สกุลเงินดิจิทัลและโทเคนดิจิทัล เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของมัน ทำให้ NFT กลายเป็นที่นิยมและถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ศิลปะ, เกม และอื่น ๆ ที่สามารถประยุกต์ใช้กับ Non-Fungible Token ได้หลากหลายมากขึ้น
ประโยชน์ของ NFT มากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ไม่ว่าคุณจะเป็น
นักพัฒนาที่มีไอเดียแปลกใหม่
นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ
ศิลปินที่อยากแชร์ความสามารถให้คนทั่วไปที่หลงใหลในศิลปะได้ติดตาม
ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม
หรือแม้กระทั่งผู้ที่คาดหวังจะลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าภาพจำของคนส่วนใหญ่ ที่มีต่อ NFT คงเป็นภาพศิลปะที่เอาไว้เก็งกำไรเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว NFT นั้น เป็นมากกว่าภาพงานศิลปะ ซึ่ง NFT มีประโยชน์มากมาย โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปดูว่า NFT ในปี 2024 เป็นมากกว่าภาพงานศิลปะได้อย่างไร
ประโยชน์ NFT ใช้ทำแคมเปญการตลาด
NFT เป็นเครื่องมือที่ใช้กับแคมเปญการตลาดยุคใหม่ เนื่องจาก NFT สามารถตรวจสอบความเป็นเจ้าของผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์และการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เช่น การสร้างการรับรู้ การโปรโมตผลงาน หรือการสร้าง Brand Loyalty ในกลุ่มลูกค้า
การนำ NFT มาใช้กับแคมเปญการตลาด สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การแจกของรางวัลพิเศษ การสร้างคอลเลกชันเฉพาะแคมเปญ หรือการนำเสนอประสบการณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟผ่านเทคโนโลยี AR และ VR
Bitkub NFT นำแพลตฟอร์ม เครื่องมือ และ NFT Solution มาประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น
อุตสาหกรรมประเภทการค้า
ตัวอย่างแบรนด์ประเภทการค้าที่ร่วมกับ Bitkub NFT คือ KOI Thé หนึ่งในแบรนด์ชานมไข่มุกที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตของตลาดชาไข่มุก เป็นแบรนด์ที่แจ้งเกิดและประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดตัวธุรกิจในไทย จนได้ขยายสาขาไปยังทั่วประเทศ เนื่องจาก KOI Thé เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภคและตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา
KOI Thé ได้จัดแคมเปญ NFT(ea) Hunting ด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT ที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Bitkub Chain มาประยุกต์ใช้กับแคมเปญเพื่อแลกรับรางวัลเป็นเครื่องดื่ม โดย NFT ถูกออกแบบเป็นคอลเลกชันพิเศษสำหรับกิจกรรมนี้ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 2,000 ชิ้น แบ่งประเภทออกเป็น Normal Design , Super Rare Design และ Super Special Rare Design
สำหรับแคมเปญ NFT(ea) Hunting ผู้เข้าร่วมแคมเปญสามารถแลกรับเครื่องดื่มและสิทธิพิเศษจาก KOI Thé Thailand โดยใช้งานผ่านกระเป๋า Bitkub NEXT และแอปพลิเคชัน KOI Thé Thailand โดยผู้ใช้งานสามารถนำบัญชี KOI Leaf Rewards ไปเติมเงินและชำระซื้อเครื่องดื่มตามโปรโมชัน เพื่อรับโค้ดสำหรับแลกรับ NFT ที่ถูกแนบมากับใบเสร็จ ซึ่ง NFT จะถูกเก็บอยู่บนกระเป๋า Bitkub NEXT และหลังจากการสะสม NFT ครบ 6 ลายแบบไม่ซ้ำกันเรียบร้อยแล้ว สามารถนำ NFT ไปแลกรับรางวัลใหญ่ ณ แพลตฟอร์ม Bitkub NFT
แคมเปญ NFT(ea) Hunting มีส่วนช่วยในการเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ (Customer Retention Rate) ให้กับตัวแบรนด์ โดยอัตราการซื้อซ้ำของสินค้าแบรนด์ทั่วไปจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63% ซึ่งหลังจาก KOI Thé ประยุกต์ใช้ NFT กับแคมเปญแล้ว สามารถเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำจาก 63% เป็น 73% (เพิ่มขึ้น 10%)
ทำให้ NFT Solution ดังกล่าว เหมาะสำหรับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการเพิ่ม Brand Awareness และเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ เนื่องจาก NFT เปรียบเสมือนเครื่องมือทางการตลาดในรูปแบบ Loyalty Point ที่สามารถเพิ่มความสนุกสนาน ความตื่นเต้น และการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในการเก็บสะสมแต้มเพื่อแลกรับรางวัลมากยิ่งขึ้น
อุตสาหกรรมประเภทกีฬาและอีสปอร์ต
Bitkub NFT ได้เล็งเห็นถึงโอกาสของอุตสาหกรรมกีฬา Esports จึงได้ร่วมมือกับทีม Bacon Time เพื่อยกระดับการเชียร์กีฬาให้มีความสนุกสนานมากกว่าเดิม โดยการให้ผู้ชมได้ร่วมทายผลการแข่งขัน ROV Pro League 2022 Summer ทุกแมตช์ของทีม Bacon Time (รวมการแข่งขันตลอดฤดูกาลทั้งสิ้น 14 วัน) ผ่าน Bitkub NEXT เพื่อรับรางวัลรางวัลเป็นเหรียญ KUB
รวมถึงการจัดกิจกรรม Bacon Watch Party รวบรวมเหล่าแฟนคลับทั่วประเทศไทย เข้าร่วมเชียร์ทีม Bacon Time ในศึก RoV Pro League 2022 Summer รอบ Champion Round ที่ Bitkub M Social ณ ห้างเอ็มควอเทียร์ และยังเพิ่มอรรถรสให้กับแฟนคลับชาว Bacon Time ด้วยการแจกการ์ด NFT Community โดยได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับชมผ่าน LIVE ผ่านการสแกน QR Code โดยใช้กระเป๋า Bitkub NEXT ซึ่งการ์ด NFT Community จะมีอยู่ 4 ระดับด้วยกัน คือ Common, Rare, Super Rare และ Ultra Rare
อุตสาหกรรมประเภทการท่องเที่ยว
Bitkub NFT ได้พัฒนาโปรเจกต์ Amazing Thailand NFT โดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาผสานและประยุกต์ใช้กับโครงการ ภายใต้คอนเซปต์ Travel to Earn หรือการเดินทางไปสแกนเก็บ NFT ในสถานที่ท่องเที่ยว 5 แห่ง ผ่านแอปพลิเคชัน YAKS และกระเป๋า Bitkub NEXT
นักท่องเที่ยวสามารถสแกน QR Code และรับ NFT ที่ตู้ Kiosk ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งหมด 5 แห่ง รอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ 1) วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 2) เสาชิงช้า-วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร 3) ถนนเยาวราช 4) สยามสแควร์ และ 5) เมืองโบราณ (สมุทรปราการ) โดยในระยะแรกของโครงการนี้ จะมีจำนวน NFT จำกัดเพียง แห่งละ 3,999 ชิ้น (แต่ละชิ้นจะมีความพิเศษแตกต่างไม่เหมือนกัน) นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาติดต่อสอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว จะได้รับ NFT ภาพสนามบินสุวรรณภูมิ (จำนวนของ NFT จะมีจำกัด 3,999 ชิ้นไม่ซ้ำกัน)
ประโยชน์ NFT ใช้เป็นไอเทมในเกม
Morning Moon Village เป็น GameFi แรกบน Bitkub Chain ที่มาในรูปแบบเกมปลูกผักทำฟาร์มและสำรวจทรัพยากร โดยนำระบบ Yield Farming แบบ Defi มาสร้างเป็นเกม ซึ่งผู้เล่นจะได้เรียนรู้วิธีการเป็น Yield Farmer และสร้างผลตอบแทนเป็นโทเคนดิจิทัล
โดยเกม Morning Moon Village เป็น GameFi ที่ถูกออกแบบและสามารถเชื่อมต่อกับระบบบล็อกเชนและ NFT บน Bitkub Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการจับกลุ่มลูกค้า Play-to-Earn
ทีมงาน Bitkub Chain และพันธมิตรมีการร่วมช่วยทำการตลาดและประชาสัมพันธ์แคมเปญ ตลอดจนมีทีมนักพัฒนาธุรกิจที่พร้อมช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
สืบเนื่องจาก NFT Mechanic ที่ร่วมประยุกต์ใช้ ทำให้ NFT Solution นี้ เหมาะกับบริษัทเกมที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้ารูปแบบใหม่และทำให้ตัวเกมแตกต่างจากเกมอื่น โดย NFT Mechanic ที่ร่วมประยุกต์ใช้สามารถเพิ่มยอด Engagement ของผู้เล่นได้อย่างมีนัยสำคัญ
สร้าง ขาย หรือลงทุน NFT ที่คุณสนใจได้ที่ Bitkub NFT
เราพอจะเห็นแล้วว่า NFT ในปี 2024 ไม่ได้เป็นแค่เพียงภาพศิลปะอีกต่อไป แต่ยังสามารถใช้ทำแคมเปญการตลาด ใช้เป็นไอเทมในเกม ใช้เป็นตั๋วเข้างานออฟไลน์อีเวนต์ และยังสามารถทำอย่างอื่นได้อีกเพียบ
หากคุณพร้อมที่จะเข้าสู่โลกของ NFT แล้ว สามารถใช้งาน Bitkub NFT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับการตลาดและการซื้อขาย NFT ในประเทศไทย